ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น., ผอ.ศปจร.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น., หัวหน้า ศปจร.น.,พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ,พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง,พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม,พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 และ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น.ร่วมแถลงข่าวการจับกุมแก๊งลักรถยนต์ รายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งมีการกระทำในลักษณะเครือข่ายและก่อเหตุมาหลายพื้นที่ มีผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก โดยจับกุมได้พร้อม ของกลางหลายรายการ ซึ่งจะมีการส่งมอบรถที่ติดตามมาได้และคืนให้กับผู้เสียหาย
ศปจร.น.ได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมเกี่ยวกับปัญหาการโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกอบกับผู้เสียหายบางรายได้โพสต์ใน facebook ส่วนตัวว่าได้รับความเดือดร้อนจากการถูกโจรกรรมรถยนต์เป็นอย่างมาก กว่าจะเก็บเงินซื้อรถยนต์มาได้สักคันในการนี้
จากนั้น พล.ต.ท.ชาญเทพ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ ในฐานะหัวหน้ารับผิดชอบ ศปจร.น. ดำเนินการสืบสวนจับกุม โดยมีการสืบสวนและประสานข้อมูลกับ ภ.1 , ภ.2 และ ภ.9 จนสามารถจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์ดังกล่าวได้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. นายชาญชัย อ่อนศิริ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 71/2561 ลง 2 มี.ค. 61 นำส่ง สน.บางพลัด ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” โดยทำหน้าที่ในการเปลี่ยนกุญแจ , ประสานงานและ หาแหล่งซุกซ่อนรถยนต์ที่ได้มาจากการโจรกรรม
2. นายอนันต์ น้อยเคน อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 72/2561 ลง 2 มี.ค. 61 นำส่ง สน.บางพลัด ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” โดยทำหน้าที่ร่วมโจรกรรมรถยนต์และขับรถยนต์ที่โจรกรรมได้ไปซุกซ่อนไว้เพื่อรอจำหน่าย
3. นายธวัชชัย มรกต อายุ 31 ปี นำส่ง สน.ดอนเมือง ในข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารปลอม ” โดยทำหน้าที่ขับรถยนต์คันก่อเหตุไปส่งทีมชุดโจรกรรม และดูต้นทางขณะแก๊งโจรกรรมรถยนต์ลงมือ พร้อมด้วยของกลางคือ
1.รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตล-175 กรุงเทพฯ ซึ่งถูกโจรกรรมมาจากพื้นที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
2.แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม จำนวน 1 แผ่น
พฤติการณ์กล่าวคือ แก๊งโจรกรรมรถยนต์ดังกล่าวได้ออกตระเวนก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง เมื่อโจรกรรมรถยนต์ได้แล้วจะนำไปจำหน่ายให้กับนายทุนในพื้นที่ภาคใต้ ศปจร.น.จึงได้สืบสวนและประสานข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ โดยเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 61 สามารถจับกุมตัว นายอำพล ศรีสวัสดิ์ และ น.ส.ลัดดาวรรณ วงษ์ศักดิ์ ได้ที่ จ.ชุมพร ขณะขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอจูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆน-904 กรุงเทพฯ ซึ่งถูกโจรกรรม ในพื้นที่ สน.บางพลัด ไปส่งให้นายทุนทางภาคใต้ และจากการขยายผลทำให้ทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน จึงได้สืบสวนเรื่อยมา
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 มี.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปจร.น. ร่วมกับ บก.สส.บช.น., สน.บางพลัด และ สภ.เมืองปทุมธานี สามารถจับกุมนายอนันต์ฯ และ นายธวัชชัยฯ ได้ขณะขับรถยนต์ของกลางตระเวนดูรถเป้าหมายเพื่อจะก่อเหตุในพื้นที่ สน.ดอนเมือง จากนั้นได้ขยายผลจับกุมนายชาญชัยฯ ผู้ร่วมขบวนการได้ที่ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมกันก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ดังกล่าวจริง ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่าแก๊งดังกล่าวก่อเหตุโจรกรรมมาแล้วจำนวนหลายสิบคัน และเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์และเพิ่งพ้นโทษมาจากเรือนจำเป็นเวลาไม่นาน อีกทั้งมีความเชื่อมโยงกับแก๊งปลอมเอกสารราชการรายใหญ่ซึ่ง ศปจร.น.จับกุมไปเมื่อ 27 ก.พ.61 ที่ผ่านมา ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ จะช่วยยับยั้งการสร้างความเสียหายให้กับประชาชนได้เป็นอย่างมาก สำหรับผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ จำนวน 3 คน ได้ออกหมายจับไว้แล้ว จะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป หากพบเบาะแสคนร้ายเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์โปรดแจ้ง ศปจร.น. 1192 หรือ 02-537 8102
อีกรายเป็นคดียาเสพติดโดยพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 ได้ร่วมมือกับ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์,พ.ต.อ.โชคชัย งามวงค์, พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกก.สส.2 บก.สส.บช.น. ประกอบด้วย พ.ต.อ.ฐิรวิทย์ บุษบัน ผกก.สส.2บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.บุญโรจน์ โลจายะ,พ.ต.ท.กานดิศ ระวิโรจน์ รอง ผกก.,พ.ต.ท.ธนาวินท์ กาญจนวิภาส สว.กก.สส.2 บก.สส.บชน.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.สส.บก.น.8ประกอบด้วย พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.ฯ,พ.ต.ท.ปกรณ์ ภาวิไล, พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล,พ.ต.ท.วาฑิตย์ โรจน์ไพฑูรย์ รอง ผกก.,พ.ต.ท.ทวิช เพ็ญอัมพร,พ.ต.ท.ชินวัฒน์ แก้วพันธ์พงศ์,พ.ต.ต.วิเชียร เที่ยงผดุง,พ.ต.ต.สามารถ ด้วงทรง,พ.ต.ต.นิติชัย ไพศาล พิยะนุกูลสว.กก.สส.บก.น.8
ร่วมทำการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญผู้ต้องหา (ขอสงวนชื่อนามสกุล)โดยกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า,ไอซ์,ยาเค,ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1
1. (ยาบ้า) ประมาณ 51,600 เม็ด ) 2. ไอซ์ จำนวน ประมาณ 5.6 กิโลกรัม
3. ยาเค (ชนิดเกล็ด) 4.9 กิโลกรัม 4. ยาเค (ชนิดน้ำ) 193 ขวด
5. ยาอี 392 เม็ด
โดยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2651 เวลาประมาณ 23.00 น. บริเวณลานจอดรถของ ดี คอนโดและในห้องพักเลขที่ 779/197 ชั้น 7 ตึก GD ของ ดี คอนโด แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนทราบว่า นายวสันต์ กองพรม มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ บริเวณย่านวัชระพล รามอินทราและบริเวณใกล้เคียง จึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อประชุมวางแผนเพื่อทำการจับกุม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนจนแน่ชัดว่านายวสันต์ หรือบอล กองพรม อายุ 26 ปี ที่อยู่ 20/6 หมู่ที่ 3 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ใช้รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตตี้ (สีเทา) หมายเลขทะเบียน ณผ 1364 กทม. เป็นยานพาหนะในการนำยาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้า และใช้ห้องพักภายในอาคารดีคอนโด ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เป็นที่เก็บซุกซ่อนยาเสพติด
ซึ่งก่อนหน้านี้ เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้วางแผนการจับกุม โดยวางกำลังซุ่มอยู่บริเวณลานจอดรถ ดีคอนโด ฯ จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.30 น.นายวสันต์ กองพรม ได้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ณผ 1364 กทม. เขามาจอดที่ลานจอดรถ ดีคอนโด ฯ แล้วเดินขึ้นอาคาร GD ไปหลังจากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. นายวสันต์ กองพรม เดินออกมาจากอาคาร GD โดยสะพายกระเป๋ามีลักษณะเป็นพิรุธคล้ายบุคคลกระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้นตัว ผลการตรวจค้นพบของกลางลำดับที่ 1 ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 2,000 เม็ด และของกลางรายการที่ 2 วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) ชนิดเกล็ดบรรจุในถุงชา จำนวนประมาณ 1 กก.อยู่ในกระเป๋าสะพายสีเทา ซึ่งนายวสันต์ ฯ สะพายเฉียงไหล่อยู่ สอบถามนายวสันต์ ฯ รับว่ากำลังจะนำยาเสพติดของกลางทั้งสองรายการไปส่งให้กับลูกค้า
นายวสันต์ ฯ ยังรับเพิ่มเติมว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอีกจำนวนหนึ่ง บนห้องเลขที่ 779/197 อาคาร GD ดีคอนโด ที่นายวสันต์ ฯ เช่าไว้เพื่อเก็บยาเสพติด ผลการตรวจค้นพบ ยาบ้า จำนวนประมาณ 49,600 เม็ด ของกลางรายการที่ 3 ,ไอซ์ จำนวนประมาณ 5.6 กก. ของกลางรายการที่ 4 , เคตามีน ชนิดเกล็ด จำนวนประมาณ 3.9 กก. ของกลางรายการที่ 6 อยู่ภายในตู้เสื้อผ้าของห้องเลขที่ 779/197 ดีคอนโด และพบ ยาอี จำนวนประมาณ 392 เม็ด ของกลางรายการที่ 5 ,เคตามีน ชนิดน้ำบรรจุขวด จำนวนประมาณ 193 ขวด วางอยู่ภายในกล่องกระดาษข้างเตียงนอนภายในห้องเลขที่ 779/197 ดีคอนโด นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป