นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ‘Korn Chatikavanij‘ กล่าวถึงกระแสข่าวการทุจริตของรัฐบาลที่เป็นประเด็นอยู่ในช่วงนี้ ว่า ช่วงนี้มีข่าวหนาหูเรื่องการทุจริตในระบบราชการทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับวัด โรงเรียน คนจน ผู้ป่วยเอดส์ ฯลฯ บางกรณีกินเปอร์เซ็นต์กันสูงถึง 80% ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า ไม่มีนักการเมืองก็โกงได้ และอาจจะน่ากลัวกว่า เพราะไม่มีฝ่ายค้านคอยจับผิด ตนเห็นว่าการช่วยเหลือประชาชนยังจำเป็น แต่จากนี้ไปเราต้องพยายามช่วยโดยตรง ไม่ให้ผ่านมือข้าราชการ ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าข้าราชการไม่ดีหมด แต่ในทุกวงการ เมื่อมีเงินผ่านมือคนกลางเมื่อไร เป็นยุ่งทุกที
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ที่บ้านตนจะโดนภรรยาดุเสมอทุกครั้งที่ตนวางเงินสดหรือกระเป๋าตังค์ไว้ที่โน่นที่นั่น ภรรยาจะพูดว่าเราไม่ควรไปยั่ว ให้เด็กที่บ้านต้องมีกิเลส เพราะโดยธรรมชาติคนส่วนใหญ่ไม่ขี้ขโมย แต่ทุกคนมีความอ่อนไหวและความต้องการ ดังนั้นอย่าไปเปิดช่องให้คนดีกลายเป็นโจร แม้ในสมัยที่เราเป็นรัฐบาลเราพยายามใช้หลักการนี้มาตลอด เช่น การช่วยเหลือชาวนาเราใช้ประกันรายได้ โอนเงินส่วนต่างตรงเข้าบัญชีชาวนา ไม่ผ่านมือใคร หรือตอนเราช่วยผู้มีรายได้น้อย เราทำเช็คช่วยชาติ โอนตรงให้ผู้รับเงิน ไม่ต้องผ่านหน่วยราชการ หรือแม้แต่เรียนฟรี เราโอนค่าชุดนักเรียนให้ผู้ปกครองไปซื้อเอง ไม่เปิดโอกาสให้มีการทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง โครงการเหล่านี้มีข้อบกพร่องไม่ใช่ไม่มี แต่อย่างน้อยการรั่วไหลแทบไม่มีโอกาส เพราะเราจ่ายตรง ไม่ผ่านมือใคร
“ยิ่งด้วยเทคโนโลยี ระบบพร้อมเพย์ของรัฐบาลเอง และการยืนยันตัวเองด้วยอีเลคโทรนิค (e-KYC) ผมไม่เห็นว่าทำไมเงินยังตัองผ่านมือข้าราชการมากถึงขนาดนี้ การปราบโกงมีเรื่องต้องทำหลายระดับ ขึ้นอยู่กับว่าเอาจริงแค่ไหนครับ” นายกรณ์