หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม“พล.ต.ต พันธนะ”แถลงรวบ แฮกเกอร์ หลอกเจ้าของธุรกิจ ร้านดังให้กลุ่มเพื่อนโอนเงินกว่าครึ่งล้าน

“พล.ต.ต พันธนะ”แถลงรวบ แฮกเกอร์ หลอกเจ้าของธุรกิจ ร้านดังให้กลุ่มเพื่อนโอนเงินกว่าครึ่งล้าน

วันที่ 16 มิ. ย 2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต พันธนะ นุชนารถ ผบก.ขส.บช.ปส.ในฐานะหัวหน้าชุดเทคนิคและสืบสวนความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมพร้อมด้วย พ.ต.อ ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท.ร่วมกันแถลงผลการปราบปรามแฮกเกอร์หลอกลวงให้ทำการโหวตภาพเด็ก แล้วแฮกไลน์ผู้เสียหายมาหลอกยืมเงินเพื่อนในกลุ่มไลน์ มีผู้หลงเชื่อได้รับความเสียหายจำนวนหลายราย

โดยการจับกุมนายสมพร สิงห์ม่วง อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่จ.259/2563 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ในข้อหาข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, เข้าถึงโดยมิชอบ ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน, เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน, ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือ บางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 14(1) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ได้พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อกรุ่น 19 สีด จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวน 10 นัด

โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 17/5 หมู่บ้านทรัพย์ศิริ หมู่ 8 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรีทางด้าน พล.ต ต พันธนะ เปิดเผยว่า ช่วงที่มีวิกฤติการระบาดของโรคโควิด 19 ได้มีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยผู้ต้องหาได้สร้างลิ้งก์แปลกปลอมในการหลอกลวงเอาข้อมูลรหัสไลน์ของผู้เสียหายและนำไลน์ดังกล่าวหลอกให้ผู้อื่นโอนเงินให้

ทาง ด้าน พ.ต.อ ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายว่าได้มีคนร้ายแฮกไลน์ของผู้เสียหายโดยหลอกให้กดลิ้งก์โหวตหลาน ซึ่งหลอกให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลส่วนตัวและรหัสไลน์ของตัวเอง จากนั้นคนร้ายได้ใช้ไลน์ของผู้เสียหายไปหลอกลวงให้บุคคลอื่นโอนเงินให้กับคนร้ายทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายหลายราย

จากการสืบสวนทางเทคนิคสามารถพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายสมพร ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า นำเงินที่หลอกลวงได้มาใช้จ่ายและเล่นการพนัน โดยทำเพียงคนเดียว โดยใช้ของเครือญาติ 4-5 บัญชี เพื่อรับโอนเงิน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น แต่มีความรักชอบศึกษาเรื่องไอที จึงมีความรู้ด้านนี้เป็นพิเศษ เคยมีอาชีพเป็นผู้ค้าตามตลาดนัด แต่ปัจจุบันไม่มีอาชีพชัดเจน
อย่างไรก็ตามนายสมพรเคยถูกจับกุมในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ก่อนจะประกันตัวออกมาก่อเหตุดังกล่าวอีก
ทางด้าน น.ส สุชีรา ท้าวคำหลง เจ้าของร้านZurich Breas Caft ที่มีอยู่ในเมืองไทยกว่า 23สาขา (ผู้เสียหาย )เปิดเผยว่า อยากจะเตือนภัยเพราะปัจจุบันคนไทยใช้แอพพลิเคชั่นไลน์กันเยอะมาก โดยมีไลน์ส่งเข้ามาจากแม่เพื่อนให้ช่วยกดโหวตให้หลานที่เข้าประกวดร้องเพลง โดยข้อความดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือ จากนั้นให้เรากดโหวตผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก ซึ่งจะต้องกรอกชื่อผู้ใช้-และรหัสผ่านเฟซบุ๊ก แต่ตนใช้รหัสผ่านเฟซบุ๊กกับไลน์คนละรหัสกัน จากนั้นผ่านไปไม่นานไม่กี่ชั่วโมง เพื่อนๆ ก็ทักมาบอกว่า ตนส่งบาร์โค้ดให้ช่วยสแกนจ่ายเงินให้ โดยคนที่ปลอมเป็นตนอ้างว่าบัตรเต็มให้ช่วยโอนเงินให้ โดยให้สแกนเข้าร้านค้า เพื่อนๆ มีการโอนเงินไป 4 ครั้ง สูญเงินกว่า 4 แสนบาท จึงอยากฝากเตือนว่าหากมีการให้กดลิ้งก์โหวตให้ คิดให้ดีก่อนที่จะกดเข้าลิ้งก์ไป

พล.ต ต พันธนะ กล่าวว่า ฝากถึงประชาชนทั่วไปที่ใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าไลน์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไม่ควรกดเข้าไปดูลิ้งก์ที่มีลักษณะผิดปกติหรือมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ มิเช่นนั้น อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในการขโมยข้อมูลส่วนตัวของตน และไม่ควรให้รายละเอียดข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญในลิ้งก์ที่มีลักษณะผิดปกติ หรือมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าข้อมูลเกี่ยวบัญชีธนาคาร รหัสบัตรเอทีเอ็ม รหัสอีเมลแอดเดรส เพราะมิจฉาชีพอาจใช้ข้อมูลของท่านในการกระทำความผิด อย่างไรก็ตามควรตั้งค่าความปลอดภัยการเข้ารหัสสองชั้นในแอพพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่สำคัญไม่ควรโอนเงินให้บุคคลอื่นไปยังบัญชีธนาคารที่ตนไม่รู้จักหรือใช้ชื่อบัญชีธนาคารของคนอื่น ทั้งนี้ก่อนโอนเงินควรโทรสอบถามไปยังเพื่อนทางหมายเลขโทรศัพท์ที่มีการติดต่อได้จริงๆ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img