นส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงเสียงสะท้อนจากประชาชนจ.ลำปาง หลังจากลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียง ว่า ประชาชนส่วนใหญ่บอกว่าหลังเลือกตั้ง หลายอย่างในชีวิตยังไม่มีอะไรดีขึ้น เเม้รัฐบาลบอกว่ามีนโยบายหลายอย่างมาช่วย เเต่มันเหมือนรดน้ำบนต้นเเละใบ ส่วนรากนั้นน้ำมาไม่ถึงเเละ กำลังยืนตายซาก เเละยิ่งมาเจอสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เข้ามาเพิ่มนั้นประชาชนบอกว่าเหมือนตายทั้งเป็นเเละหนักกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เสียอีก เพราะการดูเเลประชาชนของรัฐบาลนี้ไม่ทั่วถึงเเละมั่วมาก โดยเฉพาะการเเจกเงินช่วยเหลือในหลายรูปเเบบของรัฐบาล คนที่เดือดร้อนจริงๆ หลายคนไม่ได้รับการเยียวยาเเม้จะยื่นอุทธรณ์ไปเเล้วก็ไม่ผ่าน เเต่คนที่ไม่ค่อยเดือดร้อนเเละลงทะเบียนผ่านนั้นก็มีมากซึ่งเมื่อได้ยินเเบบนั้น ก็สะเทือนใจ พยายามให้กำลังใจเเละจะพยายามเสนอวิธีการให้รัฐบาลปรับระบบฐานข้อมูลใหม่เพื่อให้คนที่เดือดร้อนจริงๆ ได้รับการดูเเลเเละติดตามมาตรการใหม่ของรัฐบาลว่าจะทำอะไรช่วยเหลือประชาชนที่เป็นรูปธรรมกว่านี้หรือไม่
ดังนั้นหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยจึงกำชับว่าต้องตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ อย่าให้การทุจริตเกิดขึ้น หากพบสิ่งผิดปกติให้ตรวจสอบเเละเเจ้งให้สังคมรับรู้ทันที วันนี้ ประชาชนลำบากเเละหวังให้พวกตนช่วยเหลือ ตรงนี้คือหน้าที่ที่พวกตนรับปากกับประชนไว้ และขอฝาก 3 ป.ว่าควรห่วงชีวิตคนไทยมากกว่าห่วงอำนาจในพรรคพลังประชารัฐเเละคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพราะหลายปีที่ 3ป.ดำเนินการบริหารประเทศนั้น ประชาชนเเทบไม่มีอะไรดีขึ้นในชีวิต เเละมีข่าวประชาชนฆ่าตัวตายหลายครั้ง ดังนั้น 3ป.ควรพิจารณาใหม่ว่าตอนนี้ควรห่วงอนาคตของประชาชนหรืออนาคตตัวเองบนเวทีการเมืองมากกว่ากัน