หน้าแรกการเมือง"อนุทิน" แจงสภาปัดปล่อยให้ประเทศมีความเสี่ยง

“อนุทิน” แจงสภาปัดปล่อยให้ประเทศมีความเสี่ยง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ให้กำลังใจรัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์และตนเอง ซึ่งจะเป็นพลังที่ต่อสู้กับสถานการณ์โควิด-19 อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทุกคนจะรู้สึกปลื้มใจกับการให้กำลังใจจากสภาผู้แทนราษฎร ส่วนประเด็นที่นายแพทย์ สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายตำหนิว่ารัฐบาลปล่อยให้มีกิจกรรมเสี่ยง ให้คนจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าประเทศ อุปกรณ์การแพทย์ขาดแคลน นั้น นายอนุทิน ชี้แจงว่า นับตั้งแต่มีข่าวการระบาดของโรคนี้จากประเทศจีนตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2562 กระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรค เปิดสวิตช์ทันที เตรียมองคาพยพให้พร้อมจนวันที่ 3 มกราคม 2563 มีการคัดกรองผู้เดินทางเข้ามาประเทศไทยในจุดสำคัญ เช่น สนามบินและท่าเรือ นับแต่นั้นเป็นต้นมาก็ทำการคัดกรองผู้ป่วย โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ประกาศว่าพบผู้ป่วยนอกประเทศจีนรายแรก ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว และหลังจากนั้นมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว โดยกระทรวงสาธารณสุข ทำการรักษานักท่องเที่ยวเหล่านั้นจนหายครบทุกคน สามารถเดินทางกลับประเทศได้ สิ่งที่ทำไปนี้เป็นประโยชน์มหาศาลต่อประเทศไทย ประเทศจีนมีความซาบซึ้งและชื่นชมประเทศไทยในการดูแลคนของเขาเป็นอย่างดี หลังจากนั้นได้รับการสนับสนุนทั้งเวชภัณฑ์ ยา ข้อมูล เทคโนโลยีต่างๆ จากประเทศจีนโดยตลอดจนถึงปัจจุบันนี้

ส่วนการปล่อยให้มีกิจกรรมเสี่ยง เช่น สนามมวย การเปิดร้านอาหาร เปิดผับบาร์ นายอนุทิน ชี้แจงว่า รัฐบาลออกมาตรการแล้ว แต่อาจจะมีการหลุดบ้าง แต่ที่สำคัญคือ เมื่อหลุดแล้วต้องสามารถสอบสวนโรคและนำทุกคนมารักษา เช่นที่ สนามมวย ทุกคนได้รับการรักษาและขยายผลไม่มีขาดตกแม้แต่คนเดียว ส่วนใหญ่กลับบ้านได้หมดแล้ว มีบางคนที่อายุมากไม่เกิน 2 ถึง 3 ราย สูงอายุ มีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ทำให้มีอาการหนักและต้องเสียชีวิตไป แต่สถิติการรักษาพยาบาลสถิติของกระทรวงสาธารณสุข การรักษาโดยบุคลากรทางการแพทย์ยังอยู่ในมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้

นายอนุทิน ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า กระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้การ์ดตก ขอให้ประชาชนตั้งการ์ดสูงตลอดเวลา ถ้านับคะแนนยังไม่น๊อคเอาท์ ตอนนี้คะแนนเรานำอยู่ และจะเอาชนะได้เมื่อมีวัคซีน โดยงบประมาณ 45,000 ล้าน กระจายงบประมาณส่วนหนึ่งให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ค้นคว้าหาวัคซีนให้ได้ การที่ประเทศไทยจะเป็นแชมป์ด้านสาธารณสุขของโลกอีกเรื่องเดียว คือ ต้องคิดค้นวัคซีนให้ได้ ส่วนเรื่องอื่นประเทศไทยกวาดมาหมดแล้ว วันหนึ่งถ้าคิดค้นวัคซีนไว้ได้ จึงจะสามารถพูดได้ว่าประเทศไทยคือผู้นำด้านสาธารณสุขอย่างแท้จริง ยืนยันว่าได้กำชับห้ามใช้งบประมาณในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ ต้องใช้เพื่อพัฒนานวัตกรรม องค์ความรู้ เครื่องมือแพทย์ ซึ่งบางประเทศที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจถึงขั้นที่ว่าคนนี้ต้องอยู่ คนนี้ต้องตาย แต่ประเทศไทยจะไม่มีวันนั้น ไม่มีวันที่แพทย์จะต้องตัดสินใจว่าใครจะอยู่หรือใครจะตาย จะต้องเตรียมความพร้อมเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ เทคโนโลยี ความเก่งกาจของแพทย์และพยาบาล เทคนิคการแพทย์ เภสัชกร เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน ซึ่งเป็นนโยบายที่กระทรวงสาธารณสุขวางไว้ และได้รับการสนับสนุนที่ดีจากหัวหน้ารัฐบาล

นายอนุทิน มั่นใจว่าการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 เป็นไปเพื่อเข้าสู่การผ่อนคลายการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งขณะนี้อยู่ในกรอบที่คณะรัฐมนตรีให้บังคับใช้ 3 เดือน แต่มองว่าประเทศไทยเตรียมความพร้อมเดินออกจากสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้การบริการดูแลรักษา ไม่ให้โควิด-19 ทำร้ายประชาชนไทยอีกต่อไป ต้องไม่เสียทั้งหมดเพราะโควิด-19 แต่จะต้องได้ประโยชน์จากผู้ที่จะมาใช้บริการทางการแพทย์ในอนาคต สิ่งที่สูญเสียไปจะต้องเอากลับคืนมาให้ได้ ขอขอบคุณประธานและสมาชิกกับกำลังใจที่ให้กำลังใจ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img