เมื่อวันที่ 14 ต.ค.62 ที่ บก.ทท.3 พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผบก.ทท.3 เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ร่วมประชุมเร่งรัด ติดตามความคืบหน้ากรณี นายตีโม ไอนาริ ฟาร์ติน (MR.Timo Einari Parinen) สัญชาติฟินแลนด์ ถูกทำร้ายร่างกายเมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค.62 มี พ.ต.ต.ปริญญา รักษาแก้วสว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.3 ร.ต.อ.สมใจ รักเสมอ รอง สว.ส.ทท.4 ฯเข้า ประชุม โดยมี พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 เป็นประธานฯพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จากบก.สส.บช.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย
โดยล่าสุด มีความคืบหน้า : พงส.สภ.เมืองนครศรีฯได้ยื่นคำร้องขอออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องคือ 1.นายยุทธภูมิ หรือเสือ ไชยศรีมาลย์ 2.นายประสิทธิ์ หรือสิทธิ์ อินทรวิจิตร ในความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนายยุทธภูมิ หรือเสือ ไชยศรีมาลย์ ตามหมายจับที่ จ.317/2562 ลงวันที่ 13 ต.ค.62 ส่วนนายประสิทธิ์ หรือสิทธิ์ อินทรวิจิตร ได้หลบหนีการจับกุม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวคือ 3.นายสวาทหรือเหว่า โพชดา อายุ 59 ปีอยู่บ้านเลขที่ 58/1 ถ.พัฒนาการทุ่งปรัง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีฯ มาสอบสวนและได้ความว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินจำนวน 120,000 บาท และแบ่งให้นายประสิทธิ์ อินทรวิจิตร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 หมู่ที่ 2 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีฯ ที่ศาลอนุมัติหมายจับไปแล้วนั้นจำนวน 60,000 บาท ซึ่งนายสวาท โพชดา ได้นำเงินมาคืนให้กับชุดสืบสวนเพื่อทำบันทึกตรวจยึด จำนวน 36,000 บาท ในส่วนของ พงส.สภ.เมืองนครศรีฯ กำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลพิจารณาออกหมายจับ นายสวาท โพชดา ต่อไป
จากการสืบสวน และสอบสวนผู้กระทำความผิด ทำให้ทราบเพิ่มเติมว่า มีผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 1 ราย คือ 4.นายปัญญา หรือ หรั่ง ไชยศรีมาลย์ อายุ 56 ปี ซึ่งได้ร่วมกระทำความผิด และเป็นผู้นำเงินส่วนแบ่งจำนวน 120,000 บาท ไปแบ่งให้นายยุทธภูมิ หรือเสือ ด้วย ซึ่ง วันนี้ เวลา 16.30 น. นายปัญญา หรือหรั่ง ได้ถูกควบคุมตัวมาที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และอยู่ทำการสอบสวนขยายผล จับกุมตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นครั้งนี้ต่อไป
ในขณะเดียวกัน ตนได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ปริญญา รักษาแก้ว สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.3 ได้เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ได้แจ้งแก่ผู้บาดเจ็บ ถึงความห่วงใยของ ผู้บังคับบัญชาของกองบัญชาการตำรวยท่องเที่ยว โดยผู้บาดเจ็บได้กล่าว”ขอบคุณ และแจ้งว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความสะเพร่าของผู้บาดเจ็บที่ให้กลุ่มคนร้าย เห็นเงินของตน ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด และขอบคุณตำรวจท่องเที่ยว ที่อยู่ดูแลตนอย่างดี ตั้งแต่เข้ารักษาตัว จนถึงปัจจุบัน”พล.ต.ต.กฤษศักดิ์ “กล่าว