สำนักข่าวไทยพับลิก้า รายงานว่า หลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ให้รับคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อท. 352/2560ไว้พิจารณา กรณีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กับพวกรวม 18 คน เป็นจำเลย ในข้อกล่าวหา ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่เรียกเก็บเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้ครบถ้วนตามสัญญาบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งกำหนดให้ผู้รับสัมปทานต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ ทอท. 15% ของยอดขายก่อนหักค่าใช้จ่ายและค่าภาษี แต่ ทอท. เรียกเก็บเงินแค่ 3% ทำให้รัฐเสียหาย 14,290 ล้านบาท นายชาญชัยจึงขอให้ศาลฯ ลงโทษผู้กระทำความผิดและริบเงินทั้งหมดให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยนัดคู่ความรวบรวมพยานหลักฐานส่งเจ้าพนักงานคดีฯ วันที่ 16 มกราคม 2561 และนัดตรวจสอบพยานหลักฐานวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561
ถึงกำหนดวันนัดหมายรวบรวมพยานหลักฐานส่งศาลฯ ในวันที่ 16 มกราคม 2561 ปรากฏว่า จำเลยที่ 1-14 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฯ ขอเลื่อนวันนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานออกไป เนื่องจากจำเลยให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างการทำเรื่องขอให้พนักงานอัยการแก้ต่างคดีให้ ขณะที่โจทก์ได้ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลฯ ออกหมายเรียกพยานหลักฐานจาก ทอท., บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด และบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดส่ง ยังได้รับเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน ศาลฯ จึงอนุญาตให้เลื่อนวันนัดรวบรวมพยานหลักฐานออกไปตามที่จำเลยร้องขอ
ล่าสุด ถึงกำหนดวันนัดตรวจสอบพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดพิจารณาคดีในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 9.00 น. ในวันนี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ มีความเห็น “ให้เจ้าพนักงานคดี ดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป และให้เลื่อนวันนัดตรวจสอบพยานหลักฐานเป็นวันที่ 14 มีนาคม 2561 เวลา 10.00 น. พร้อมกับกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง 2 นัด คือวันที่ 15 และ 16 พฤษภาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.และเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ศาลจึงออกข้อกำหนด สั่งห้ามคู่ความไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลและพยานหลักฐาน ซึ่งอาจจะกระทบต่อกระบวนการพิจารณาของศาลไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น”
จากนั้นศาลฯ ได้กล่าวสรุปผลการพิจารณาคดีในวันนี้ให้ผู้สื่อข่าวอีกครั้ง ว่า “ประเด็นของการพิจารณาคดีวันนี้ คือ มีการเลื่อนวัดนัดตรวจสอบพยานหลักฐานออกไปเป็นวันที่ 14 มีนาคม 2561 และกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง 2 วัน คือวันที่ 15 และ 16 พฤษภาคม 2561 โดยศาลฯอนุญาตให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวได้ แต่ต้องเป็นการรายงานข่าวตามข้อเท็จจริง และที่สำคัญห้ามเผยแพร่ข้อมูล พยานหลักฐาน ของคู่ความ”
อนึ่ง จำเลยของคดีนี้มีทั้งหมด 18 ราย ประกอบด้วย นายประสงค์ พูนธเนศ เป็นจำเลยที่ 1, นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน จำเลยที่ 2, น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ จำเลยที่ 3, นายราฆพ ศรีศุภอรรถ จำเลยที่ 4, นายนันทศักดิ์ พูลสุข จำเลยที่ 5, นาวาอากาศตรี ประจักษ์ สัจจโสภณ จำเลยที่ 6, พลอากาศโท จอม รุ่งสว่าง จำเลยที่ 7, นายวราห์ ทองประสินธุ์ จำเลยที่ 8, พลอากาศโท ประกิต ศกุณสิงห์ จำเลยที่ 9, นายมานิต นิธิประทีป จำเลยที่ 10, นายธานินทร์ ผะเอม จำเลยที่ 11, นายธวัชชัย อรัญญิก จำเลยที่ 12, นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ จำเลยที่ 13, นายนิตินัย ศิริสมรรถการ จำเลยที่ 14, บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด จำเลยที่ 15, บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำเลยที่ 16, บริษัท คิง เพาเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จำเลยที่ 17 และนายสมบัตร เดชาพานิชกุล เป็นจำเลยที่ 18