เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่กองปราบปราม พล.ต.ท. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนของคณะทำงาน คดีระเบิดกรุงเทพฯ ตามคำสั่งตร.ที่ 459/2562 ลงวันที่ 2 ส.ค. 2562 โดยมีคณะทำงานที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แต่งตั้ง และพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม และเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวมแล้วมากกว่า 50 เข้าร่วมประชุม
โดยก่อนการประชุมทาง พล.ต.ท. สุวัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เรียกคณะทำงานมาประชุมหารือเพื่อวางแนวทางการสืบสวนสอบสวน หลังมีการโอนสำนวนคดีมาให้ทางกองปราบปรามเป็นผู้ดูแล ซึ่งจะดูว่ามีความเรียบร้อยเพียงใด โดยในส่วนของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนยังคงเป็นชุดเดิมที่ทางผบ.ตร.แต่งตั้ง แต่นำสำนวนของแต่ละคดีในหลายพื้นที่มารวมไว้ที่กองปราบ เพื่อให้ง่ายต่อขั้นตอนในชั้นศาลในการส่งฟ้องในเขตอำนาจศาลเพียงศาลเดียว เพราะแต่ละพื้นที่ที่เกิดเหตุมีความเชื่อมโยงกันจากรวบรวมพยานหลักฐานที่พบ อย่างไรก็ตามหากอธิบายให้ง่ายนึกถึงขั้นตอนสืบพยานในชั้นศาล หากอยู่เขตอำนาจศาลเดียวกันทางผู้พิพากษาก็จะได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น แต่ในการสืบสวนสอบสวนยังคงเป็นหน้าที่ของคณะทำงานที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งไว้ และ หลังส่งมอบสำนวนแล้ว ชุดสืบสวนสอบสวนของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจะเข้ามาร่วมในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายในคดีด้วย ซึ่งจะทำให้มีประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวน และง่ายต่อการจับกุม หรือควบคุมตัวมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาทางเราก็ดำเนินการต่อเนื่องออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวจำนวน 2 คน โดยสามารถเปิดเผยได้เพียงว่า เป็นผู้ก่อเหตุที่อยู่ในพื้นที่สน.พญาไท ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีระเบิดเพลิงในพื้นที่ย่านประตูน้ำ ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวไว้ ส่วนจะเป็นระดับตัวบงการ ตัวชี้เป้า หรือจะเป็นระดับมือวางระเบิดนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดได้ เนื่องจากจะมีผลต่อการสืบสวนสอบสวนในพื้นที่
ภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ท. สุวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีรูปแบบเป็นการร่วมงานระหว่าง องค์กรอาชญากรรม กับ ผู้ที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งออกหมายจับไปแล้ว 9 คน และอยู่ะหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอให้ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา เพิ่มอีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางระเบิดเพลิงที่ย่านประตูน้ำ นอกจากนี้ข้อมูลทางการสืบสวนด้วยว่า มีผู้ต้องหา2ถึง3 คน หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามข้อมูล เพื่อประสานการจับกุม ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปแล้วก่อนหน้านี้ มี 9 คน รวมหมายจับ มากกว่า 12 หมายจับ ในจำนวนนี้จับได้แล้ว 2 คน อย่างไรก็ตามในส่วนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่อยู่ระดับในสั่งการ มีข้อมูลมากพอที่จะระบุตัวตนได้ แต่ยอมรับว่า พยาน หลักฐาน ยังไม่เพียงพอที่จะเอาผิดได้
สำหรับการรวมคณะทำงาน และการส่งสำนวนคดี ที่สมบูรณ์ แล้ว ให้พนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม ก็เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินการในขั้นตอนของชั้นศาล ยืนยัน ไม่กระทบการทำงาน ด้านงานสืบสวนสอบสวน ทั้งนี้คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 70% ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการรวบรวม พยานหลักฐาน ทั้งเรื่องการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้อยู่ในที่เกิดเหตุซึ่งล่าสุดมีการสอบไปแล้วกว่าร้อยปาก แต่ยังเหลือพยานที่ต้องสอบเพิ่มอีกจำนวนมาก โดย เบื้องต้น ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะส่งสำนวนให้ทัน ภายใน การฝากขังผู้ต้องหาไม่เกินในผัดที่ 4 แต่หากมีพยานหลักฐานอื่นๆที่ต้อง สืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมก็จะขยายเวลาออกไปอีกเพื่อไม่ให้เป็นการกดดันชุดสืบสวนสอบสวนมากจนเกินไป