ที่ สภ.พัทยา จว.ชลบุรี น.ส.จอย (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ได้กล่าวว่าถูกชายแต่งกายในเครื่องแบบเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกขึ้นอพาร์ทเมนท์ในเมืองพัทยา เพื่อเข้าตรวจค้นแล้วพยายามบังคับให้หาเงินมาเคลียร์ปัญหาและขู่จะดำเนินคดี ก่อนจะถูกพาตัวไปล่วงละเมิดทางเพศในโรงแรมม่านรูด จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
น.ส.จอย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังอย่างละเอียดว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุตนได้นัดกับเพื่อนรุ่นพี่ให้มาหาที่ห้องพัก จากนั้นไม่นานก็มีชายแต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร 1 คน และแต่งตัวเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 คน มาเคาะประตูห้อง ก่อนจะเข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจค้นหาสิ่งผิดกฏหมาย โดยบอกว่าติดตามเพื่อนของตนเองมา
โดยหนึ่งในนั้นได้พาตนเข้าขังเอาไว้ในห้องน้ำและพยายามเจรจากันกว่าชั่วโมง เพื่อให้หาเงินมาเคลียร์จำนวน 30,000 บาท ซึ่งตนเองก็ไม่มีและไม่รู้จะไปหามาจากไหน ต่อมาทั้งสองจึงออกอุบายออกจากที่พัก ก่อนจะพาไปเปิดห้องพักรายวันในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งตนไม่ใช่คนพื้นที่และอยู่ในอาการกลัวจึงไม่ทราบว่าห้องพักดังกล่าวชื่ออะไร
จากนั้นผู้ชายที่แต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พาเพื่อนตนออกจากห้องพักไป ทิ้งให้ตนอยู่กับผู้ชายที่แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร 2 คน ก็ได้มีการเจรจากันอีกครั้ง แต่ตนบอกว่ามีเงินติดตัวเพียง 2,700 บาทเท่านั้น จึงมอบเงินนั้นให้ไป
แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่พอใจ เรียกร้องจะเอาให้ครบ 30,000 บาทให้ได้ แนะให้ไปขอหยิบยืมจากพ่อแม่ ตนไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาให้พยายามอ้อนวอน จนกระทั่งผู้ที่แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่อาสาบอกว่า หากตนยินยอมให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยจะคุยให้และไม่ดำเนินคดีใดๆ ด้วยความกลัวตนจึงจำใจยอมให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย
หลังจากสำเร็จความใคร่แล้วก็ได้ติดต่อให้ผู้ก่อเหตุอีกราย ที่แต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจมา แล้วทิ้งให้ตนอยู่กันเพียงลำพัง ก็มีการเจรจาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งตนก็ยืนยันคำเดิมว่าไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาให้ ก่อนที่ชายแต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยอีกคน หลังจากเสร็จกิจยังมีการขู่บังคับให้หาเงินมาให้ครบ และขู่ว่าจะไปหาเรื่อยๆ ด้วยความกลัวตนเองจึงไม่กล้าที่จะเถียง ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมาจากห้องพักรายวันดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่อพาร์ทเมนท์ดังกล่าว พบว่ากล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน ขณะที่ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ซึ่งแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกอำพรางใบหน้า อีกรายแต่งกายเหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สวมหมวกคล้ายหมวกสายตรวจ ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกอำพรางใบหน้าเช่นกัน
เมื่อเดินเข้ามายังอพาร์ทเมนท์ก็พยายามเดินหลบกล้องวงจรปิด แต่กล้องวงจรก็สามารถจับภาพขณะที่เข้าและออกไว้ได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ และเป็นเจ้าหน้าที่จากที่ใด จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสเพื่อติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นการทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ทั้งนี้ น.ส.จอย (นามสมมุติ) เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องการให้สื่อมมวลชนนำเสนอข่าว และยังรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จึงจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นก่อน รอให้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยกับชีวิตตัวเองด้วย โดยพนักสอบสวนคดีดังกล่าวได้แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ตำรวจยศนายสิบ นายหนึ่งพร้อมพวก กรรโชกทรัพย์ รุมโทรมและ กักขังหน่วงเหนี่ยว
ด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้สั่งการชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมถึงสอบถามพยานแวดล้อม จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ทราบชื่อคือ ส.ต.ต.รัฐชนนท์ ด่านนัทธี หรือหมู่กล้า ตำแหน่ง ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.หนองปรือ ส่วนอีกผู้ก่อเหตุ 2 คนที่เหลือเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ใช่ตำรวจอาสาสมัครแต่อย่างใด ประกอบด้วยนายพลดนัย ธรรมกุลา อายุ 21 ปี และ นายประเสริฐ คงขาว อายุ 31 ปี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 5 ก.พ. 61 พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้เรียกตัว น.ส.จอย (นามสมมุติ) ผู้เสียหายมาสอบปากคำโดยละเอียดอีกครั้ง ซึ่งผู้เสียหายยังคงยืนยันว่าถูก นายประเสริฐ คงขาว และส.ต.ต.รัฐชนนท์ ด่านนัทธี ข่มขู่เรียกเงิน 30,000 บาท และบังคับให้ร่วมประเวณี
จากนั้นได้เรียกตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว และร่วมกันโทรมหญิง ซึ่งผู้ต้องให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าว
พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร เปิดเผยว่า พฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหา ได้มีการวางแผนกันล่วงหน้า โดยให้ นายพลดนัย ซึ่งรู้จักกับ น.ส. จอย (นามสมมุติ) เป็นการส่วนตัว ทำทีเป็นนกต่อ เข้าไปหาผู้เสียหายที่ห้องพักซอยบงกช จากนั้น ส.ต.ต.รัฐชนนท์ และนายประเสริฐ ได้เข้าไปตรวจค้น พร้อมทำทีพบยาเสพติดที่ตัว ของนายพลดนัย จากนั้นได้อ้างว่า พบยาเสพติดที่ห้องพักของ น.ส.จีรนันท์ทำให้มีความผิดร่วมกัน จึงข่มขู่เรียกเงินจำนวน 30,000 บาท แต่ผู้เสียหายมีเพียง 2,700 บาท ก่อนมีการเจรจาตกลงให้ร่วมหลับนอน นายประเสริฐ และส.ต.ต.รัฐชนนท์ เพื่อแลกกับการปล่อยตัว
ทั้งนี้ ภายหลังการสอบสวน และเมื่อผู้เสียหายยืนยันชี้ตัวผู้ต้องหาเสร็จสิ้นแล้ว จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทยา พร้อมคัดค้านการประกันตัว ส่วนการกระทำความผิดของ ส.ต.ต.รัฐชนนท์ ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามขั้นตอน ซึ่งจะถูกสั่งให้ออกจากราชการหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับทางผู้บังคับบัญชา
ข่าว/ภาพ:
นายโยธิน พรมแตง
ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ ประจำจังหวัดชลบุรี