วันที่ 24 ธันวาคม 2568 ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ชั้น 3 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์, นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ พร้อมว่าที่ผู้สมัคร สส. พรรคภูมิใจไทยทั่วประเทศ ทั้งระบบเขตเลือกตั้ง และระบบบัญชีรายชื่อ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

นายอนุทิน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประชาชนเผชิญความไม่มั่นคงรอบด้าน ทั้งด้านความปลอดภัย เศรษฐกิจ และสังคม พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมสูงสุดจากประสบการณ์การบริหารประเทศในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สาธารณสุข ความมั่นคง การต่างประเทศ และการค้า โดยยืนยันว่าพรรคไม่ใช่พรรคการเมืองที่ต้องทดลองทำงาน แต่เป็นพรรคที่ผ่านวิกฤตมาแล้วทั้งโรคระบาด ภัยพิบัติ และภัยความมั่นคง พร้อมทำงานได้ทันที ทำได้จริง และทำได้อย่างรวดเร็ว“คนไทยกลัวไม่มีกิน กลัวธุรกิจเจ๊ง กลัวแก่แล้วไม่มีเงินใช้ กลัวหาเงินไม่พอที่จะเลี้ยงครอบครัว กลัวมีลูกแล้วเข้าโรงเรียนดี ๆ ไม่ได้ กลัวสแกมเมอร์ กลัวคนในครอบครัวติดพนัน กลัวยาเสพติด กลัวน้ำท่วม ฝนแล้ง ไฟป่า แต่ที่ไม่ต้องกลัวแล้ว คือ การเสียอธิปไตย”

นายอนุทิน เน้นย้ำถึงนโยบายด้านความมั่นคง โดยเสนอแนวคิด “รั้วของชาติ” เพื่อปกป้องประเทศจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ ไม่เพียงเฉพาะภัยทางทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภัยคุกคามทางเศรษฐกิจและสังคม ทั้งการลักลอบนำของเถื่อนเข้าประเทศ สินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านที่ทะลักเข้ามากดราคาพืชผลไทย แรงงานผิดกฎหมาย ยาเสพติด เครือข่ายสแกมเมอร์ การพนัน กาสิโน และทุนสีเทา โดยยืนยันว่าประเทศไทยไม่เอาสิ่งเหล่านี้ และจำเป็นต้องมีรั้วที่เข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตย เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังนำเสนอนโยบายทหารอาสา เปิดรับสมัครทหารอาสา 100,000 คน ระยะเวลา 4 ปี มีค่าตอบแทนเดือนละ 12,000 บาท เพื่อสร้างกำลังพลที่สมัครใจ มีความเข้มแข็ง และเป็นมืออาชีพ พร้อมได้รับการฝึกทหาร การฝึกอาชีพ และมีโอกาสศึกษาต่อหรือสอบเลื่อนตำแหน่งเป็นนายสิบ และตำแหน่งที่สูงขึ้น ในอนาคต
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า หากพรรคภูมิใจไทยได้กลับมาบริหารประเทศ จะมีการจัดทีมบริหารอย่างชัดเจน แยกงานตามความถนัด โดยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว จะดูแลงานด้านการต่างประเทศเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของไทยในเวทีโลก นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ จะกำกับดูแลด้านพาณิชย์ การค้า และอุตสาหกรรม และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ จะรับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจและการคลัง
นายอนุทิน ย้ำว่า ภารกิจของพรรคภูมิใจไทยคือการเข้ามาสร้างความมั่นคงในชีวิตทุกด้านให้กับประชาชน ทำให้คนไทยพ้นจากความรู้สึกหวั่นไหวต่อภัยคุกคาม และกลับมามีความมั่นใจในการดำรงชีวิต พร้อมเสนอตัวเป็นผู้บริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า เพื่ออนาคตที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของคนไทยทุกคน

