นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า การอัปเดตข้อมูลเป็นหน้าที่ของกองทัพ ซึ่งมีการแถลงข่าวทุกวัน จึงขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลจากฝ่ายโฆษกของกองทัพโดยตรง ส่วนกัมพูชามีการติดต่อเพื่อขอเจรจาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่ายังไม่มี พร้อมตั้งคำถามกลับต่อกระแสข่าวที่อ้างว่ากัมพูชาส่งสารมาว่าต้องการพูดคุยโดยชี้ว่า ส่งให้ใคร และการพูดผ่านสื่อไม่ถือเป็นกระบวนการเจรจาตามปกติ ทั้งยังย้ำว่าขณะนี้ ไม่ใช่เวลาของการเจรจา สำหรับข้อเสนอให้มีการขอเปิดอภิปรายในรัฐสภาตามมาตรา 165 เพื่อปรึกษาหารือในปัญหาสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยหรือเศรษฐกิจของประเทศนายกรัฐมนตรีระบุว่ายังไม่ได้รับคำร้องใด ๆ และกองทัพยืนยันว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เต็มที่ โดยรัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติการให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกองทัพ
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่ากัมพูชาโจมตีโรงพยาบาล นายอนุทินระบุว่าต้องรอรายงานที่ชัดเจนและเป็นทางการ ก่อนจะมีท่าทีต่อเรื่องดังกล่าว ส่วนข้อเสนอให้หยิบยกเรื่องบันทึกความเข้าใจ (MOU) ฉบับปี 2543-2544 มาใช้ในช่วงนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้มีหลายวาระสำคัญ โดยรัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน
สำหรับคำถามว่ากระแสข่าวยุบสภาจะกระทบต่อความมั่นคงชายแดนหรือไม่นั้น นายอนุทินย้ำว่า ไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากการปกป้องอธิปไตยของไทยเป็นภารกิจหลักของฝ่ายความมั่นคงอยู่แล้ว พร้อมปฏิเสธข่าวที่ว่าแกนนำรัฐบาลถูกเรียกประชุมเรื่องยุบสภาโดยระบุว่า ไม่มี แล้วจะมีได้อย่างไร พร้อมยืนยันว่าการยุบสภาคืออำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะทูลเกล้าฯ ส่วนการยุบสภายังเป็นไทม์ไลน์เดิมหรือไม่นั้น ต้องรอดูสถานการณ์และความเหมาะสม ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า หมายความว่าได้ร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาเตรียมพร้อมไว้แล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี พยักหน้ารับ
ด้านกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับภาพนายกรัฐมนตรีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในช่วงสถานการณ์ชายแดน นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเพียงการประชุมพรรคภูมิใจไทยตามปกติทุกวันอังคาร เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสภา และขออย่าหยิบเรื่องเล็กน้อยมาเป็นประเด็น ส่วนเมื่อถามว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถเดินหน้าไปถึงการพิจารณาวาระที่ 3 ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังพยายามเต็มที่เพื่อผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สามารถพิจารณาในวาระที่ 3 ได้
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2

