ที่รัฐสภา วันที่ 30 ก.ย. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ (29 ก.ย. 68) ว่า การอภิปรายเเป็นไปด้วยดี มีการอภิปรายจนครบเวลา โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ให้คำแนะนำ ข้อคิด และข้อเท็จจริง ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้บันทึกไว้แล้ว ส่วนใดที่สามารถนำไปปฏิบัติและเป็นประโยชน์ได้ก็จะดำเนินการตามนั้น สำหรับกรณีที่ สส.พรรคประชาชน มีการพุ่งเป้าเรื่องโครงการคนละครึ่งที่ดูเหมือนรีบร้อนเกินไป และกังวลว่าจะเป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้น ตนไม่ทราบจะตอบอย่างไร เพราะเวลาในการทำงานมีเพียง 4 เดือน และตามลักษณะการทำงานของ ครม.ชุดนี้คืออะไรที่ทำได้ต้องทำทันที ไม่มีคำว่ารีบร้อน มีแต่ทำด้วยความรวดเร็วและผ่านการกลั่นกรอง การดำเนินการที่ถูกต้องโปร่งใสและมีประโยชน์ ส่วนมุมมองด้านลบว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ในความจริงแล้วทุกพรรคหาเสียงหมด การอภิปรายด้วยข้อมูลต่างๆ ให้ประชาชนรับทรายในสภาฯ คือการหาเสียงอย่างหนึ่งเช่นกัน จึงขออย่าจับไปเป็นประเด็น ทุกครั้งที่มีการพูดในสภาฯ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็พูดให้ประชาชนฟัง ไม่ได้พูดให้ฟังกันเอง
สำหรับการอภิปรายเรื่องคุณสมบัติ ครม. จะเรียกความเชื่อมั่นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลได้ตรวจสอบคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนด ทั้งประวัติอาชญากรรม ประวัติการศึกษา รวมถึงตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยงานยาเสพติด ตำรวจ อัยการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปปท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับการยืนยันมาว่าไม่มีข้อมูลใด ๆ ที่ ครม.ที่ได้รับการแต่งตั้งมีความผิดหรือขัดคุณสมบัติ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
ต่อข้อถามว่ารัฐบาลมั่นใจหรือไม่ว่าโครงการคนละครึ่งจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในช่วงระยะเวลาสั้น นายอนุทิน กล่าวว่า โครงการคนละครึ่ง เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ประชาชนลงครึ่งหนึ่ง รัฐลงครึ่งหนึ่ง หากประชาชนไม่ลงจะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรและไม่เกิดประโยชน์ แต่หากประชาชนลงครึ่งหนึ่งและรัฐลงครึ่งหนึ่งจะเกิดการหมุนเวียนการใช้จ่าย น่าจะเป็นการกระตุ้นและการไหลเวียนของเม็ดเงินได้

