หน้าแรกการเมืองพรรคเพื่อไทย ยื่นร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ต่อประธานรัฐสภา เสนอโมเดล ส.ส.ร. 151 คน

พรรคเพื่อไทย ยื่นร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ต่อประธานรัฐสภา เสนอโมเดล ส.ส.ร. 151 คน

พรรคเพื่อไทย นำโดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ นางสาวธีรรัตน์สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. ยื่นญัตติเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม เพื่อให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สส.พรรคเพื่อไทย 113 คน ได้ยื่นญัตติดังกล่าว ซึ่งการจัดทำร่างนี้คำนึงถึงรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ว่ามีข้อห้ามหรือข้อพิจารณาอย่างไรบ้าง คำนึงถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และในอดีต เคยยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยกระบวนการสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาแล้วหลายครั้ง เพราะคิดว่าการมีคนมาร่างรัฐธรรมนูญ โดยกระบวนการ ส.ส.ร.นั้น เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคำนึงถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะคำวินิจฉัยที่ระบุว่ารัฐสภามีอำนาจที่จะริเริ่มแสดงความต้องการในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนลงประชามติเสียก่อนว่าประสงค์จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และการเลือก ส.ส.ร. โดยตรงจากประชาชน ไม่สามารถกระทำได้ ดังนั้น หากไม่ดำเนินการตามนี้ ท้ายที่สุดประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย เนื่องจากจะมีการไปยื่นคำร้อง และร่างรัฐธรรมนูญนี้ก็จะไม่ประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งใจ

คณะทำงานยกร่างของพรรคเพื่อไทย จึงได้มีข้อสรุปว่า ให้รัฐสภาแต่งตั้ง ส.ส.ร. โดยมาจากประชาชน และให้รัฐสภาแต่งตั้งตามจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่การเลือกโดยตรง แต่รัฐสภาเป็นผู้เลือก หลังจากประชาชนเลือกมาแล้ว ท้ายที่สุดหากยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วก็ยังคงต้องให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ เนื่องจากคำวินิจฉัยที่ระบุชัดเจนว่ารัฐสภาไม่สามารถมอบอำนาจให้องค์กรใดมายกร่างรัฐธรรมนูญแทนรัฐสภาได้ จึงมีบทบัญญัติว่าต้องให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบในฐานะผู้ริเริ่มจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นที่อยากให้เข้าใจตรงกันมากที่สุด คือ กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังไม่เริ่มต้น การยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวันนี้ เพื่อเพิ่มหมวด 15 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งหมายความว่ารัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมนี้ หากผ่านวาระ 3 ไปแล้ว และลงประชามติ แล้วประชาชนเห็นชอบ จึงจะนำมาประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 15/1 จึงจะถือว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เริ่มต้นขึ้น ทั้งนี้ จากการหารือกันนอกรอบระหว่าง 3 พรรคการเมือง (เพื่อไทย ประชาชน ภูมิใจไทย) คิดว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเริ่มต้นขึ้นหลังจากทำประชามติ เมื่อมีการยุบสภาแล้ว

ขณะที่โมเดล ส.ส.ร. ของพรรคเพื่อไทย จะมาจาก 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 จำนวน 100 คน โดยรัฐสภาเป็นผู้เลือกจากที่ประชาชนเลือกมาทั้งหมด 300 คน เป็นไปตามสัดส่วนประชากรของแต่ละจังหวัด และจะต้องมี ส.ส.ร. อย่างน้อยจังหวัดละ 1 คน ป้องกันการฮั้วกัน และส่วนที่ 2 จำนวน 51 คน มาจากองค์กรวิชาชีพ สภาท้องถิ่น สภานิสิตนักศึกษา และอื่น ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งคิดว่าองค์กรเหล่านี้ควรจะมีส่วนร่วมในการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะให้ไปเลือกกันเอง รวมจะมี ส.ส.ร. 151 คน มีหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และสามารถตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้

นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ร่างของพรรคเพื่อไทยคงจะไปพิจารณารวมกับของพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย โดยอยากฝากข้อสังเกตจากการที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา ภายในเดือนมกราคม 2569 นั้น อย่างน้อยที่สุดรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ต้องผ่านวาระ 3 ก่อนยุบสภา จึงจะเดินต่อไปได้ แต่จากประสบการณ์ เห็นว่าเป็นเรื่องยากที่จะเสร็จภายใน 4 เดือน อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าพรรคเพื่อไทย ตั้งใจจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนั้นมีปัญหาหลายด้าน

นอกจากนี้ นายชูศักดิ์ ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่โมเดล ส.ส.ร. ของ 3 พรรค มีความแตกต่างกันสิ้นเชิง จะยึดของพรรคใด นายชูศักดิ์ ตอบว่า ต้องคุยกันด้วยเหตุด้วยผลว่าโมเดลไหนดีที่สุด ไม่ได้วิจารณ์ว่าของพรรคใดดีหรือไม่ดี แต่คำนึงถึงการให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด แต่หากไปรวมกันเลยทีเดียว อาจจะมีปัญหาเหมือนกัน ว่าฝ่ายใดคุมเสียงข้างมากในรัฐสภาได้ก็จะเอาไปทั้งหมด เลย เรื่องนี้ก็คิดอยู่ในใจ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องหลอมรวมความคิดและรับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img