ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย รรท.รอง ผบช.น. ผบก.ในสังกัดนครบาล เดินทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายใน บช.น. เนื่องในโอกาสดำรงตำแหน่ง ผบช.น.คนที่ 49 โดยมีการสักการะ ศาลเจ้าแม่ทับทิมริมรั้วด้านหลังพิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน ศาลเจ้าแม่เกษมณี และศาลพระภูมิเจ้าที่ และพระอนุสาวรีย์พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศวรฤทธิ์ด้านหน้าอาคาร บช.น. จากนั้นเวลาจัดพิธีรับ-ส่งมอบหน้าที่ผบช.น. โดยมี พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ส่งมอบธงพร้อมกับส่งมอบหนังสือตำแหน่งให้กับ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศปิ่น ผบช.สตม. โดยมีนายตำรวจระดับรองผบก.น.1-9 รองผบก.น.1-9 และผกก.ทั้ง 88 สน. เข้าร่วมในพิธีกว่า 236 นายโดยพร้อมเพรียง
โดยพล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า มีความยินดีที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ มาเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากค่อนชีวิตเติบโตอยู่ใน บช.น. เชื่อว่าแนวทางการทำงานของท่านไม่ใช่ตำรวจที่ไม่เคยผ่าน บช.น. และสามารถดำรงฝ่าฟันอุปสรรคนำพวกเราไปสู่ความสำเร็จได้ ระยะเวลา 1 ปีที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ จะดำรงตำแหน่งเช่นเดียวกับตนที่มารับตำแหน่ง ผบช.น. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 เป็นวันสุดท้ายที่มีโอกาสได้พูดคุยกับ ผกก. รอง ผบก. ผบก. รอง ผบช.น. และ ผบช.น.คนใหม่ ยังมีความเป็นห่วงในการทำงานของตำรวจ บช.น. เนื่องจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสังคม โลกรวดเร็วมากทางด้านเทคโนโลยี
“ตนเคยบอกเสมอโดยเฉพาะการสั่งการของผู้บังคับบัญชา ตนและ รอง ผบช.น.ชุดที่ผ่านมา พยายามเขี้ยวเข็ญให้พวกเราประชุมเพื่อเอาแนวทางการปฏิบัติให้ไปถึงรากหญ้าก็คือระดับผู้ปฏิบัติ จริงแล้วยังไม่ถึงเท่าที่ควรสังเกตได้จาก 1 ปีที่ผ่านมา มีข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยยังร่วมกระทำความผิดหลายอย่างจากหลายๆ คดี จึงต้องดำเนินคดีกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเราเอง สร้างความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ฉะนั้นมาปีนี้เชื่อว่า พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ จะกำชับการปฏิบัติงานเขี้ยวกว่าตนอีกเท่าตัว ขอให้พวกเราเตรียมรองรับไว้ตนไม่ได้มาขู่คือเรื่องจริง เพราะเราเคยร่วมงานกันมาถึงรู้ จึงขอฝาก พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ ด้วยความเป็นห่วง ตนขอมอบหน้าที่ ผบช.น. ให้กับ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ณ บัดนี้” พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าว
ด้านพล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. กล่าวว่า ตนจะเริ่มต้นทำงานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มาตรการการทำงานนั้น พล.ต.ท.ชาญเทพ ผบช.น.ท่านเก่าได้มีความตั้งใจทำงานอย่างหนักอยู่แล้ว ขณะที่ตนมาในวันนี้ก็จะคงสภาพเพื่อทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความอบอุ่นจากตำรวจ โดยปกติชีวิตข้าราชการตำรวจในประเด็นแรกที่ต้องทำคือการจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งที่ 2 ชีวิตข้าราชการตำรวจเราต้องดูแลทุกสุขของประชาชน ตนพยายามตั้งใจทำให้ได้มากที่สุด คดีที่เน้นเป็นพิเศษนั้น อะไรที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหรือชาวบ้าน ยกตัวอย่างกรณีลักรถกระบะ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่จะต้องติดตามกลับคืนมาให้ได้ ในวันนี้ตนจะมาสานต่อในสิ่งที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลท่านเก่ามีความตั้งใจ อาจจะดูในบางสิ่งบางอย่างในบางกรณีไม่หนักหนา ส่วนกรณีที่มีตำรวจไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอย่างกรณีตำรวจไปรีดทรัพย์คดียาเสพติดนั้น ไม่ต้องกังวลถูกก็คือถูกผิดก็คือผิดจะสานต่องานอีกเรื่องหนึ่งเช่นเดียวกัน ตนมีหน้าที่มาดูแลขอให้ไม่ต้องกังวลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำให้เต็มที่เท่าที่ทั้งตนและทีมงานจะทำได้เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
ส่วนมาตรการตั้งด่านหรืองานจราจรนั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความเจริญมากคนจะหลั่งไหลเข้ามา แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดฐานะผู้รักษากฎหมาย กรณีที่มีการตั้งด่านการจราจรมีปัญหาติดขัดคงจะต้องศึกษา แต่ถ้าทำแล้วมีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินก็จะมีการดำเนิน โดยช่วงเวลากลางคืนต้องมีอย่างแน่นอนเพื่อดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน แต่กลางวันของหารือกับทีมงานอีกครั้ง