หน้าแรกกองทัพ-ความมั่นคงกมธ.พัฒนาการเมืองฯ เรียก “กอ.รมน.-พวงทอง” ร่วมถกประเด็นหนังสือ “ในนามของความมั่นคงภายใน”

กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เรียก “กอ.รมน.-พวงทอง” ร่วมถกประเด็นหนังสือ “ในนามของความมั่นคงภายใน”

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกรณีการแถลงข่าวของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ต่อกรณีการออกหนังสือ “ในนามของความมั่นคงภายใน การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย” โดย รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีผู้ชี้แจงจากทั้ง กอ.รมน. และคู่กรณี คือ รศ.ดร.พวงทอง เข้าพูดคุยทำความเข้าใจต่อกัน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานกรรมาธิการฯ และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เริ่มต้นการประชุมโดยตั้งประเด็นที่อยากให้แต่ละฝ่ายมาทำความเข้าใจ คือ เนื้อหาส่วนใดในหนังสือที่ กอ.รมน. ติดใจที่ทำให้ต้องมีการออกมาแถลงข่าวด้วยท่าทีดังกล่าว กระบวนการที่นำไปสู่การแถลงข่าวเป็นอย่างไร และกรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเสรีภาพทางวิชาการในอนาคตหรือไม่

ทางฝั่งของผู้ชี้แจง พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษก กอ.รมน. ระบุว่า กรณีที่ท่าทีของ กอ.รมน. ดูรุนแรงนั้น เป็นในส่วนของพาดหัว แต่ใจความสำคัญ คือ มีการตรวจพบเอกสารงานวิชาการที่มีข้อมูลคลาดเคลื่อนและส่งผลกระทบต่อ กอ.รมน. จึงขอความร่วมมือให้ต้นสังกัดพิจารณาเท่านั้น โดยเจตนาแล้ว กอ.รมน. อยากให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แต่ถ้าสื่อสารไปแล้วอาจใช้คำพูดที่ทำให้เกิดความกังวลมากเกินไป ทีมงานโฆษกต้องขออภัย ทั้งนี้ การแถลงข่าวได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอน

ในส่วนของ พล.อ.นพนันท์ ชั้นประดับ รองหัวหน้าสำนักงานรอง ผอ.รมน. ชี้แจงว่า ในส่วนที่ กอ.รมน. ติดใจอยู่ในส่วนของบทที่ 3 มีข้อเสนอว่ากองทัพไทยแทรกซึมควบคุมสังคมไทยผ่าน กอ.รมน. โดยข้อเท็จจริง คือ กอ.รมน. กับ ทบ. เป็นคนละส่วนราชการกัน นอกจากนี้ สิ่งที่ กอ.รมน. ติดใจ คือ ระเบียบวิธีวิจัยที่ผิด ผู้วิจัยต้องรู้เรื่องที่สุดในสาขานั้น ๆ มีความเป็นกลาง และเนื่องจากโจทย์การวิจัยดังกล่าวเป็นโจทย์ใหญ่ ควรจะใช้เอกสารชั้นต้น แต่เอกสารทั้งหมดเป็นเอกสารชั้นรองและการสัมภาษณ์บุคคล 10 คน อีกทั้งตนยังติดใจที่เป็นการวิจัยข้ามเวลา มีการกล่าวถึง กอ.รมน. ในอดีต ซึ่งเป็นคนละหน่วยงานกับ กอ.รมน. ในปัจจุบันด้วย

ด้าน รศ.ดร.พวงทอง ยืนยันว่า หนังสือเล่มนี้ มีกรอบทฤษฎีในการวิจัยที่ชัดเจนแน่นอน จุดยืนของตน คือ ทหารต้องอยู่ภายใต้หน่วยงานที่เป็นประชาธิปไตย ถูกตรวจสอบควบคุมโดยหน่วยงานที่มาจากการเลือกตั้ง ทหารไม่ควรมีอิสระในการดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งตนใช้หลักการนี้ในการวิเคราะห์ สิ่งที่อยากให้ กอ.รมน. กลับไปดูใหม่ คือ การสัมภาษณ์ 10 คน เป็นกลุ่มคนที่ถูกจับตามอง ถูกปรับทัศนคติ นักเรียนนักศึกษาที่เข้าไปอบรมกับ กอ.รมน. หรือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากกองทัพ ส่วนที่กล่าวหาว่าตนใช้เอกสารชั้นรองนั้น ตนขอให้ กอ.รมน. กลับไปนับชิ้นดูใหม่ หนังสือเล่มนี้ตนใช้เอกสารอ้างอิงจากทางราชการมาเยอะมากและปล่อยให้เอกสารเป็นตัวพูดเองหลายเรื่อง

รศ.ดร.พวงทอง กล่าวต่อไปว่า ที่ กอ.รมน. ชี้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นการตีความข้ามเวลานั้น หนังสือเล่มนี้ครอบคลุมตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น อธิบายความเป็นมาว่าทำไมทหารเข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการต่าง ๆ ไปถึงหลังสงครามเย็นจบแล้วมีการขยายภารกิจของ กอ.รมน. ให้กว้างขึ้น โดยใช้ทั้งเอกสาร งานวิเคราะห์เกี่ยวกับบทบาทของ กอ.รมน. มาอธิบายความเป็นมาของ กอ.รมน. ตั้งแต่ยุคก่อตั้ง ให้มีความเข้าใจว่าพัฒนาการในบทบาทหน้าที่ของกองทัพพัฒนามาสู่จุดนี้ได้อย่างไร ทั้งนี้ การทำงานวิจัยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรืออ้างอิงแต่จากเอกสารที่หน่วยงานนั้นผลิตออกมา ถ้าทำแบบนั้นเป็นได้แค่โฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น

ทั้งนี้ หลังการชี้แจงและการโต้เถียงระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งเน้นอยู่ในประเด็นเกี่ยวกับวิธีวิจัยว่าผิดหรือถูกต้องอย่างไร นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้กล่าวและตั้งคำถามต่อผู้ชี้แจงในช่วงหนึ่งว่าต่อให้ กอ.รมน. จะมีการวิจารณ์งานของ รศ.ดร.พวงทอง อย่างร้ายแรง แต่ต้องถึงขั้นขอร้องให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพิจารณางดเผยแพร่อย่างนั้นเลยหรือ กอ.รมน. ใช้อำนาจทั้งทางกฎหมายหรือทางศีลธรรมอันใดในการให้คำแนะนำว่าคนไทยควรหรือไม่ควรอ่าน ถือสิทธิอะไรและอำนาจจากไหน และนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของ กอ.รมน. ด้วยหรือไม่

นายรอมฎอน ยังกล่าวด้วยว่า ตนขอให้คณะกรรมาธิการฯ ทำหนังสือรายงานถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. ด้วยว่ากำลังเกิดสถานการณ์เช่นนี้อยู่ เพื่อให้มีความระมัดระวังให้เสรีภาพทางวิชาการและกิจกรรมทางวิชาการและปัญญาได้รับการรับรองต่อไป ไม่ได้รับการคุกคามข่มขู่ เพื่อเปิดพื้นที่ให้มีการสนทนาถกเถียงกันต่อได้อย่างสร้างสรรค์ แม้จะมีท่าทีทางญาณวิทยาหรือวิธีวิทยาที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเอาคดีมาฟ้องกันจะแสวงหาความรู้ไปทำไม และทุกคนจะมีแต่เสียกับเสียเท่านั้น

ด้าน โฆษก กอ.รมน. ยืนยันว่า หนังสือไม่ได้ถูกมองในเชิงลบถึงขั้นเป็นภัยคุกคาม แต่ท้ายสุดแล้วเรื่องนี้จะมีการนำไปสู่การประสานเรื่องการตรวจสอบทางจริยธรรมหรือการดำเนินคดีหรือไม่ ตนในฐานะฝ่ายสื่อสารยังไม่สามารถตอบ ณ เวลานี้ได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของส่วนงานอื่น

ด้าน รศ.ดร.พวงทอง ระบุว่า รู้สึกสบายใจว่างานเปิดตัวหนังสือในวันนี้ คงไม่มีทหารเข้ามาตรวจสอบหรือเก็บหนังสือ แต่ยังคงกังวลว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอาจตรวจสอบจริยธรรมของตน และไม่มั่นใจว่าผลจะออกมาเช่นเดียวกับกรณีนายณัฐพล ใจจริง ที่มีการร้องเรียนถึงขั้นขอให้ถอดงานวิจัยและวุฒิปริญญาหรือไม่

ประธานกรรมาธิการฯ กล่าวสรุปว่า ตนขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนกัน จากนี้จะหารือกับคณะกรรมาธิการฯ เรื่องการทำหนังสือรายงานและหารือทางนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. เรื่องวางกรอบให้ กอ.รมน. ระมัดระวังในการดำเนินการใด ๆ ที่สุ่มเสี่ยงจะไปขัดต่อเสรีภาพทางวิชาการต่อในอนาคต โดยส่วนตัวตนอยากให้ กอ.รมน. ใช้วิธีการในการแถลงชี้แจงเหมือนที่ทำ ไม่ใช่การดำเนินการทางจริยธรรมหรือกฎหมาย ไม่ว่าจะโดยตรงเองหรือทางอ้อม รวมถึงวางแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้การสื่อสารมีความรัดกุมมากขึ้น เพราะการแถลงรอบแรกสร้างความกังวลใจต่อนักวิชาการจริง ๆ นอกจากนั้น ตนเห็นว่าควรมีการจัดเวทีเชิงวิชาการให้ผู้เขียนและผู้ถูกกล่าวหามาถกเถียงแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในลักษณะที่คล้ายกับการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับฟังทั้ง 2 มุมมอง

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง #กอ.รมน. #ความมั่นคง #ทหาร

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img