ผบ.ทบ.เปิดประชุมวิชาการเวชศาสตร์ทหาร เน้นความร่วมมือวิจัยสุขภาพกำลังพลเหล่าทัพ พร้อมเยี่ยม สวพท. มุ่งมาตรฐานห้องปฏิบัติการ และงานวิจัยทางการแพทย์ทหาร
กองทัพบกโดยกรมแพทย์ทหารบก จัดประชุมวิชาการเวชศาสตร์ทหารประจำปี ๒๕๖๖ ภายใต้หัวข้อ Thai Military Medicine Conference 2023) ระหว่าง ๒๕-๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๖ โดย พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมและเยี่ยมชมนิทรรศการงานวิจัยทางการแพทย์ ณ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวชื่นชมบุคลากรทุกระดับที่มีอุดมการณ์ร่วมกันในการเสริมสร้างโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าและวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าให้มีความเจริญก้าวหน้า เข้มแข็ง สง่างาม มุ่งสู่การสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับกำลังพล ครอบครัว และประชาชน
การประชุมวิชาการในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระบรมราชูปถัมภ์ และเหล่าทัพ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ทั้งด้านการเรียนการสอน งานวิชาการ งานวิจัย รวบรวมข้อมูลด้านสุขภาพ การป้องกันรักษาโรค การวินิจฉัย
และนวตกรรมทางการแพทย์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ทันสมัย โดยเฉพาะด้านเวชศาสตร์ทหารและพัฒนาบุคลากรให้มีบทบาทและเป็นผู้นำด้านสุขภาพทหารในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกเดินทางตรวจเยี่ยมสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (สวพท.) ซึ่งวิเคราะห์วิจัยโรค ให้บริการตรวจวินิจฉัย ตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ให้บริการข้อมูลข่าวสารทางการแพทย์เพื่อสนับสนุนงานด้านต่าง ๆ ของกองทัพบก โดยเฉพาะการป้องกันโรคมาลาเรียในพื้นที่ชายแดน ด้านสุขาภิบาลหน่วยทหาร งานเวชกรรมป้องกัน
โอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารบกเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวิจัย ห้องปฏิบัติการ สิ่งแวดล้อม ห้องปฏิบัติการชีวเคมี พร้อมรับฟังบรรยายสรุปงานอาชีวอนามัย งานตรวจสุขภาพประจำปี และตรวจยาเสพติดในกำลังพล โดยผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวว่า สวพท. มีความร่วมมือด้านงานวิจัยและการตรวจทางห้องปฏิบัติการร่วมกับสหรัฐฯ และสร้างประโยชน์ด้านการแพทย์ให้กับทั้งสองชาติมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการใช้ศักยภาพของ สวพท.ในการดูแลกำลังพลของกองทัพนั้นมีทั้งในพื้นที่ปกติ พื้นที่ชายแดน และพื้นที่ที่ทหารไทยไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพในต่างแดน ขอบคุณที่ สวพท. และสหรัฐฯได้ช่วยดูแลกำลังพลกองทัพบกเป็นอย่างดี ทำให้สามารถไปปฏิบัติภารกิจช่วยประชาชนได้ รวมทั้งในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19ในอนาคตหากเกิดโรคอุบัติใหม่ก็จะต้องอาศัยความร่วมมือของทั้งสองส่วนในการรับมือกับสถานการณ์
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบให้ สวพท. พัฒนาการตรวจสุขภาพกำลังพลและการเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ และเนื่องจากเป็นหน่วยที่มีศักยภาพด้านการตรวจสิ่งแวดล้อมในรูปแบบต่างๆ ทั้งน้ำ อาหาร อากาศ เสียง ที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของกำลังพล มีขีดความสามารถคล้ายกับลักษณะงานของกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ซึ่งเป็นหน่วยที่มีนักวิจัยและเครื่องมือการตรวจ เหมือนกัน จึงมอบให้ทั้งสองหน่วยได้ประสานความร่วมมือให้เกิดประโยชน์ในด้านดังกล่าวยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกมีความห่วงใยกำลังพลที่เคยป่วยเป็นโรคมาเลเรีย เมื่อปลดประจำการหรือพ้นหน้าที่ไปแล้ว บางรายอาจกลับมาติดเชื้อซ้ำและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่าง ๆ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการป้องกันหรือบันทึกด้านสุขภาพให้ก่อนปลดประจำการว่าเคยเป็นมาลาเลียมาก่อน เพื่อเป็นการพิทักษ์กำลังรบ ไม่ว่าจะอยู่ในประจำการหรือไม่ เพราะเป็นบุคคลที่เสียสละทำงานเพื่อประเทศชาติ
#thaitabloid