รักษาราชการแทน ผบก.ทล. เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าทุจริตส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุกลั่นหากพบใครมีเอี่ยว จัดหนัก ฟันไม่เลี้ยง ทางปกครอง วินัย และอาญา

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 66(เวลา 10.00 น.)พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. และ รักษาราชการแทน ผบก.ทล. เรียกประชุมชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อตรวจสอบคดีที่มีการเรียกรับเงินส่วยสติกเกอร์ของรถบรรทุก หลังจากที่ได้ให้แต่ละฝ่ายไปรวบรวมข้อมูลเพื่อมากำหนดแนวทางการสืบสวนและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าหลังให้แต่ละฝ่ายเร่งรวบรวมข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก โดยข้อมูลเบื้องต้นเชื่อว่าอาจจะมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัด และ หากพบว่าเป็นบุคคลใดก็จะดำเนินการทั้งทางปกครอง วินัย และอาญา โดยไม่มีละเว้น ทั้งนี้ก็เพื่อจะทำให้กองบังคับการตำรวจทางหลวงมีความโปร่งใสยิ่งขึ้น และค่ดว่าภายในสัปดาห์นี้จะเริ่มชัดเจนว่าจะมีใครเกี่ยวข้องบ้างส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวสติกเกอร์รูปกระต่ายว่าภรรยาของรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมนายหนึ่ง เป็นผู้ผลิตให้ไปติดกับรถบรรทุกนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ยังรอข้อมูลนี้มาประกอบการสืบสวน แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายที่ถูกกล่าวหาด้วย
สำหรับการทำงานของชุดสืบสวนนี้ ยืนยันว่าจะไม่หมกเม็ด ตั้งใจจะมาแก้ปัญหา และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสมาพันธ์รถบรรทุก และตำรวจที่ถูกกล่าวหา ส่วนข้อมูลของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เป็นคนออกมาเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ทางชุดสืบสวนก็ได้ติดต่อข้อข้อมูลเพื่อมาใช้ร่วมสืบสวนไปด้วย และรอการเข้ามาให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เผย พบตำรวจทางหลวงเอี่ยวร่วมขบวนการส่วนสติ๊กเกอร์รถบรรทุกแล้ว 5-6 นาย พร้อมเร่งตรวจสอบสถานีทั่วประเทศ 50 จุด
ต่อมาเวลา 12.30 น. วันเดียวกัน ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ามีตำรวจทางหลวง 5-6 นาย เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เตรียมเรียกให้มาช่วยราชการภายใน 1-2 วันนี้ และหากพบพยานหลักฐานทำความผิดทางอาญาชัดเจนก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอน สำหรับพฤติการณ์ของตำรวจชุดนี้ยังไม่ขอเปิดเผย แต่เบื้องต้นเป็นการสอบปากคำจากผู้เสียหาย ที่ให้การเป็นประโยชน์และเข้าข่ายความผิด และเชื่อว่าจะมีผู้กระทำความผิดมากกว่า 6 นายนี้ แต่ขอเวลาให้ชุดสืบสวนดำเนินการรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ซึ่งหากเกี่ยวข้องกับใครก็จะดำเนินคดีทั้งหมด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนผลการตรวจสอบข้อมูลการรับส่วยของแต่ละกองกำกับการของ ตำรวจทางหลวงได้ส่งผลรายงานมาให้แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล และชุดสืบสวนที่ตั้งขึ้นก็จะตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วยโดยวันนี้ยังได้ให้ชุดสืบสวน ไปตรวจสอบตามสถานีตำรวจทางหลวงทั่วประเทศกว่า 50 จุด โดยเฉพาะด่านช่างน้ำหนักที่เคยมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการรับส่วยสติกเกอร์ โดยจะตรวจสอบย้อนหลังถึง 2 ปี และให้รายงานผลมาโดยเร็ว
“ส่วนกรณีภรรยาของรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ทำสติกเกอร์จำหน่ายให้กับรถบรรทุก ชุดสืบสวนมีข้อมูลแล้ว แต่เป็นอีกส่วนที่จะสืบสวนคู่ขนานกัน ซึ่งในชุดสืบสวนนี้จะตรวจสอบในหน่วยของตำรวจทางหลวงไปก่อน ขณะที่ตำรวจยังรอข้อมูลจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล และสมาพันธ์รถบรรทุก ส่งข้อมูลมาให้ร่วมตรวจสอบกับจเรตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ จากนั้นเมื่อได้ข้อมูลก็จะนำมารวมกันกับชุดสืบสวน และจะส่งเรื่องมาให้ตำรวจป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ดำเนินคดีต่อ” รักษาราชการแทน ผบก.ทล. กล่าว
#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ สื่อออนไลน์ ที่ยึดถือจรรยาบรรณครบถ้วน

