หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"ผบ.ตร." ยัน! ตั้งแต่รับตำแหน่ง ไม่เคยพบบ่อน ด้าน "ผบช.น." ไม่หวั่นนักพนันเปรียบบ่อนเป็นสินค้าโอท็อป หากมีหลักฐานให้ส่งมา

“ผบ.ตร.” ยัน! ตั้งแต่รับตำแหน่ง ไม่เคยพบบ่อน ด้าน “ผบช.น.” ไม่หวั่นนักพนันเปรียบบ่อนเป็นสินค้าโอท็อป หากมีหลักฐานให้ส่งมา

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึง กรณีบ่อนการพนันที่มีคนในพื้นที่ออกมาให้เบาะแสว่า ยังมีบ่อนพนันอยู่ว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งมา 1 ต.ค. ยืนยันไม่มี ต้องไปตรวจสอบให้ดี ต้องถามว่า เหตุเกิดตอนไหน ก็ต้องชัดเจน การพูดต่าง ๆ ก็ต้องดูว่า เหตุเกิดตอนไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีตำรวจไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา มีบทลงโทษหรือดำเนินการอย่างไรบ้าง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามกฏหมายซึ่งได้บอกไปแล้วว่า ถ้าใครทำผิดหรือพยานหลักฐานไปถึงก็ต้องดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ทุกอย่าง เช่น ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรื่องเข้าไปเอาทะเบียนราษฎร เราก็ได้ดำเนินการไปแล้ว

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ต้องแยกประเด็นก่อน การที่เราตรวจพบ การที่ไปกดทะเบียนราษฎร์ 14 เกิดจากการที่เราตรวจสอบเส้นทางการเงินของบัญชีม้าที่เกี่ยวกับเรื่องสถานบันเทิงหรือแม้แต่ออนไลน์ไปแตะนายตำรวจ หรือข้าราชการหน่วยอื่น ๆ เราก็ไปเช็คว่า ข้อมูลตัวนี้เขาเอาไปทำอะไรได้บ้าง ก็พบว่า มีการไปกดทะเบียนราษฎรเป็น 1,000 ครั้ง มันผิดปกติ ทาง ผบ.ตร.ให้ผมประสานกับทางปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง ในการทำเรคคอร์ดว่า มีการกดข้อมูลทะเบียนราษฎร์ 14 โดยผิดปกติก็จะมีการแจ้งมาทางตำรวจ ก็จะมีการตรวจสอบเช็คกันทางลับ เพราะเมื่อก่อนไม่สามารถตรวจเช็คได้ว่า ใครไปกดอะไร แต่สิ่งที่เป็นร่องรอยของการกด คือ หากผมจะเข้าไปกดเองจะต้องใช้รหัส 13 หลัก เพื่อเข้าไปในระบบ เมื่อเข้าระบบแล้วก็จะทำการบันทึกว่า ใครเข้าไปเอาข้อมูล สิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องพึงระวัง หากเข้าไปเอาข้อมูลแล้วข้อมูลหลุดไปยังมิจฉาชีพ ท่านจะต้องรับผิดชอบ

ฉะนั้นผู้ที่จะต้องเข้าไปเอาข้อมูลได้จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี หรือมีหน้าที่สอบสวน ซึ่งได้มีการสอบถามกับกระทรวงมหาดไทยแล้ว

ถามว่า มีการเปรียบเทียบว่าบ่อนการพนันในกรุงเทพมหานครเปรียบเหมือนสินค้าโอท็อป คือ ทุกโรงพักจะมีหนึ่งบ่อนการพนัน

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กล่าวว่า อันดับแรก ต้องบอกว่าอันนั้นเป็นแนวคิดของนักพนัน ถ้าเป็นประชาชนทั่วไปโดยปกติคงไม่ได้มีมุมมองแบบนั้น สิ่งที่พูดถ้ามีพยานหลักฐานกล่าวอ้าง ยินดีที่จะรับมาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะทาง ผบ.ตร. มีนโยบายชัดเจนในเรื่องอบายมุข ที่เกี่ยวข้องกับบ่อนการพนันหรือสถานบริการ ที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดของอาชญากรรม เรามีความชัดเจนในการปราบปรามอยู่แล้ว ถ้าพี่ ๆ สื่อมวลชน หรือประชาชนมีความชัดเจนในข้อมูลส่งข้อมูลทางลับมาได้ดำเนินการทุกกรณี

ถามว่า ได้ให้น้ำหนักของนักพนันที่กล่าวอ้างแบบนี้หรือไม่

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า น้ำหนักที่จะให้อยู่ที่เอกสาร หรือข้อมูลที่เขานำมา มีข้อมูลก็นำมาส่ง ยินดีรับ มีช่องทางให้นำข้อมูลส่งมาได้เพราะผมอยู่ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาลทุกวัน เรามีช่องทางทุกการสื่อสารอยู่แล้ว ซึ่งการที่จะสื่อสารผ่านสื่อฯ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร ก็ยินดีรับมาปฏิบัติ

เมื่อถามว่า นักพนันมีการอ้างตัวเลขถึง 30 กว่าบ่อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการตรวจสอบข้อมูลนี้หรือไม่

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า เรามีการตรวจสอบทางลับอยู่แล้วตามที่กล่าวอ้าง แต่ถามว่าสิ่งที่พูดอยู่บนพื้นฐานอะไร แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล ถ้าพบก็ดำเนินการจับกุมเลย

เมื่อข้อมูลที่นักพนันอ้าง หากตรวจสอบแล้วไม่มีอยู่จริงจะดำเนินการอย่างไร

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า เป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่ ผมคิดว่า ข้าราชการตำรวจ เรามีส่วนที่จะดำเนินการ ที่เป็นสาระสำคัญในหลายๆ เรื่องทั้งการให้ความปลอดภัยกับประชาชน การดูแลภาคประชาชน แต่สิ่งที่เราดำเนินการแล้วไม่เกิดเป็นผลหรือส่งผลประโยชน์ต่อภาคประชาชน เราคิดว่า จะจัดความสำคัญในการดำเนินการ เราคงไปวางมาตรการอะไรที่นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดไม่ได้

กฎหมายบอกว่า เขามีสิทธิ์ที่จะให้การหรือไม่ให้การ ได้รับการประกันหรือไม่ได้รับการประกัน มีข้อกฎหมายกำหนดในการปฏิบัติอยู่แล้ว จะไปตั้งกติกาว่าจะให้หรือไม่ให้ไม่ใช่ เพราะมีระเบียบวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่

เมื่อถามถึงสถานบันเทิง จินหลิง ย่านยานนาวา

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนดำเนินการขยายผลอยู่

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img