หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม"ศาลฎีกาฯ รับคำร้อง ปปช." กล่าวหา สส.มุกดาหาร ผิดจริยธรรมร้ายแรง นัดพิจารณา 10 ก.พ. ปีหน้า ว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่...

“ศาลฎีกาฯ รับคำร้อง ปปช.” กล่าวหา สส.มุกดาหาร ผิดจริยธรรมร้ายแรง นัดพิจารณา 10 ก.พ. ปีหน้า ว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่.?

วันที่ 16 ธันวาคม 2464 ที่ศาลฎีกา ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์รายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาอ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่คมจ.4/2564 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายอนุรักษ์ตั้งปณิธานนท์ ผู้คัดค้าน เรื่อง การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง (ชั้นรับคำร้อง)คดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่า ผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีการับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและสิทธิเลือกตั้งของผู้คัดค้านมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2556- มาตรา 235 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2516มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 7,8,9 และ 23

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่า คำร้องของผู้ร้องบรรยายพฤติการณ์ที่กล่าวหาพร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ และผู้ร้องดำเนินการตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ.2561 ครบถ้วนแล้ว จึงมีคำสั่งให้รับคำร้อง เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้วและมิได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ผู้คัดค้านย่อมต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 มาตรา 235 วรรคสาม นัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 8.30 นาฬิกา

สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้แถลงกรณี ข้อกล่าวหาที่สืบเนื่องจากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวในที่ประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 ที่มีการประชุมพิจารณางบประมาณแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2 กรม คือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมทรัพยากรน้ำ ว่า มีอนุกรรมาธิการบางคนโทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณ

จากการเช็คข้อมูลโทรศัพท์ ช่วงระยะเวลาที่มีการโทร เจือสมพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า นายอนุรักษ์ เรียกรับเงินจาก นายศักดิ์ดาจริง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ประกอบ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 123/5 ฐานเรียกรับยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อตัวเองโดยไม่ชอบ และยังเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระหลังจากนี้ในส่วนของความผิดวินัย ป.ป.ช.จะยื่นคำร้องไปยังศาลฎีกาโดยตรง ส่วนคดีอาญาจะยื่นคำร้องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img