นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงความพร้อมในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2564 วาระ 2 และ 3 ระหว่าง 16-17 กันยายนนี้ว่า ยังมีหลายประเด็นที่ส.ส.ที่สงวนคำแปรญัตติไว้ ยังติดใจ เพราะการปรับแก้ของกรรมาธิการฯ ยังไม่สอดคล้องกับปัญหาเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม ที่แม้จะตัดงบเรือดำน้ำออกไปแล้ว แต่ก็ยังมีงบประมาณส่วนอื่น ที่ยังสามารถตัดออกได้อีก และงบของกระทรวงคมนาคม ที่มีเน้นแต่การสร้างถนนต่าง ๆ และยังถูกตัดลดงบประมาณน้อย

ส่วนที่ฝ่ายค้าน ยังกังวลต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ที่ตั้งไว้ 2,700,000 ล้านบาท นายสุทินกล่าวว่า จะเป็นไปได้ตามเป้าหมายหรือไม่และจะมีการกู้อีกหรือไม่ เพราะในปีที่ผ่านมา รัฐบาลก็มีการกู้เพื่อชดเชยเงินขาดดุล และในปีนี้ ก็ยังมีการกู้เพื่อแก้วิกฤตโควิด-19 อีกซึ่งในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ฉบับนี้ฝ่ายค้าน จะสอบถามความชัดเจนถึงงบสำหรับผู้สูงอายุด้วย หลังปรากฏข่าวว่างบไม่เพียงพอ เพื่อสอบถามความชัดเจน

สำหรับทิศทางการลงมติในวาระที่ 3 จะเห็นชอบให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายหรือไม่นั้น นายสุทิน ชี้แจงว่า จะต้องรอฟังการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรก่อน ก่อนที่ฝ่ายค้านจะนัดหารือกันในวันสุดท้ายของการอภิปราย เพื่อกำหนดทิศทางการลงมติอีกครั้ง

นายสุทิน กล่าวภายหลังนายชวน หลีกภัยประธานรัฐสภา เปิดเผยญัตติของฝ่ายค้านอาจมีปัญหา เพราะลายเซ็น ส.ส.ที่เข้าชื่อเสนอญัตติบางคนลายเซ็นไม่ตรงกัน โดยยืนยันว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน ไม่มีการปลอมลายเซ็นกันแน่นอน ซึ่งฝ่ายค้าน ระมัดระวังในเรื่องนี้มาก เพราะเคยมีปัญหาในอดีตแล้ว เพียงแต่ประธานรัฐสภา อาจมีเหตุสงสัยบ้างตามขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้อง แต่ไม่ได้ถือเป็นจุดพิรุธ พร้อมยังมั่นใจว่า ในการพิจารณาญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญในที่ประชุมรัฐสภา 23-24 กันยายนนี้ จะสามารถพิจารณาทั้ง 4 ญัตติที่มีปัญหาได้ทัน แต่หากจะมีปัญหา ก็น่าจะแค่บางญัตติ

ขณะเดียวกัน นายสุทิน ยังชี้แจงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตฝ่ายค้านเสนอปิดสวิตช์ ส.ว.จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล้มเหลว เพราะ ส.ว.จะไม่เห็นชอบด้วยว่า การเสนอปิดสวิชต์ ส.ว.นั้น ก็เป็นข้อเสนอจากคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์ และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชุดของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธาน และยังเป็นข้อเรียกร้องที่มีการพูดคุยกันมานานแล้ว หากจะกระทบก็อยู่ที่ ส.ว.จะพิจารณา