นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.) และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คเกี่ยวกับกรณีประเด็นการเมืองเรื่องการจัดเลี้ยงโต๊ะจีน ระดมทุนพรรคการเมือง ว่า สมมตินะครับสมมติ
หนึ่ง สมมติว่า การจัดโต๊ะจีน ไม่สามารถแจ้งรายละเอียดที่ไปที่มาของเงินซื้อโต๊ะได้ ให้ดูมาตรา ๖๔ และ ๑๒๓
สอง สมมติว่า มี รมต. หรือ ข้าราชการเมืองคนใด โทรไปขอให้ บ.เอกชน ช่วยซื้อโต๊ะ ให้ดูมาตรา ๗๓ และ ๑๒๗
สาม สมมติว่า มีส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ไปขอให้ บ.เอกชน ซื้อซื้อโต๊ะ ให้ดูมาตรา มาตรา ๗๖ และ ๑๒๘
สี่ สมมติว่า กกต.รู้เรื่องนี้ ไม่ดำเนินการใด ให้ดู มาตรา ๑๕๗ ป.วิ.อาญา
มาตรา ๖๔ การหารายได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมืองต้องกระทำโดยเปิดเผย และแสดงวัตถุประสงค์ว่าเป็นการระดมทุนของพรรคการเมืองอย่างชัดเจน
ให้หัวหน้าพรรคการเมืองประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปถึงจำนวนและที่มาของเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่ได้มาจากกิจกรรมดังกล่าว และให้มีหนังสือแจ้งนายทะเบียนทราบด้วย ทั้งนี้ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่กิจกรรมดังกล่าวสิ้นสุดลง ประกาศและหนังสือแจ้งตามวรรคสอง ให้ระบุชื่อบุคคลผู้สนับสนุนเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าหนึ่งแสนบาทขึ้นไปด้วย
มาตรา ๑๒๓ พรรคการเมืองใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๖๔ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกินหนึ่งแสนบาท
มาตรา ๗๓ ห้ามมิให้ข้าราชการการเมืองใช้สถานะหรือตำแหน่งหน้าที่เรี่ยไรหรือชักชวน ให้มีการบริจาคให้พรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่รวมถึงการที่ ข้าราชการการเมืองผู้นั้นเข้าร่วมกิจกรรมตามมาตรา ๖๔ โดยมิได้กระทำหรือมีส่วนกระทำการ อันเป็นการต้องห้ามนั้น
มาตรา ๑๒๗ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๓ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่ สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี
มาตรา ๗๖ ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือกิจการที่รัฐ ถือหุ้นใหญ่ บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองหรือเข้าร่วมกิจกรรม
มาตรา ๑๒๘ สมาชิกผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๔ หรือผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๕ หรือมาตรา ๗๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่มา : พรป.พรรคการเมือง ๒๕๖๐